วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560

ลุงบ้าอ้วนดำ

ผมรับราชการอยู่ต่างจังหวัด ตอนนั้นผมอายุราวเกลือบสี่สิบปี สูง167 หนักราว 75 ตอนนั้นไม่อ้วนเหมือนทุกวันนี้ แต่ตัวจะหนาเพราะออกกำลังกายหนักทุกวันหลังจากที่ผมเลิกจากงาน มันเป็นเวลาเกลือบจะค่ำแล้ว ตะวันกำลังจะตกดิน ผมขับมอไชค์ โนวาคันเก่าๆ วิ่งกินลมชมวิวไปเรื่อยไม่รีบนักเพราะเป็นวันหยุด คิดไปว่าวันก่อนไปนั่งร้านข้าวต้มในตัวเมือง มีลุงร่างอ้วนพุงโตคนหนึ่งไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงที่เป็น สจ แล้วยิ้มให้ผมบ่อยๆ ขณะที่ผมนั่งกินเหล้าอยู่คนเดียว แต่แล้วเขาก็พากันเช็คบิลส์กลับกัน     ก่อนกลับ นั้น หน้าตาอ้วนหล่อดูภูมิฐาน หัวล้านหน่อย ก้ยิ้มให้ วันนี้ผมก็เลยจะไปที่ร้านนั่นอีกเผื่อจะได้เจอ ผมขับรถไปตามถนนใหญ่ระหว่างจังหวัดเพื่อกลับบ้าน ทันใดนั้น สายตาหากินของผมได้เหลือบไปเห็นลุงคนหนึ่ง คะเนอายุน่าจะ53ปี สูงน่าจะ165 หนักราว95-97กิโลได้  ตัดผมสั้นผมบางๆแซมขาว หนวดเคราดูเหมือนไม่ได้โกนมาหลายวัน แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ นุ่งกางเกงวอร์มเก่าๆขาดรุ่งริ่งหลายแห่ง  เสื้อไม่ยอมใส่ เผยให้เห็นพุงอ้วนดำ ใบหน้าอ้วนหล่อแต่ดุๆหน่อย  หน้าอก เต้านมที่หนาพอกนูนลำแขนขาที่แกร่งล่ำ    ตามลำตัวกระดำกระด่าง มีเกลื้อนขึ้นเป็นบางแห่ง แต่ดูสะอาดสะอ้านดีเหมือนคนพึ่งอาบน้ำมาใหม่ๆกำลังแบกสะพายถุงย่ามขนาดใหญ่ อีกมือถือหิ้วสิ่งของพะรุงพะรุง เดินตามขอบถนนฝั่งตรงข้าม  ดูแล้วท่าทางภูมิฐานเหมือนคนบ้าไม่มีผิด ผมหยุดรถ มองด้วยจิตอกุศล  มันก็จวนจะมืดแล้ว  ด้วยความไม่รักตัวกลัวตายของผม จึงเลี้ยวรถมอไชค์ไปฝั่งตรงข้ามทันที  ลุงๆจะไปใหนหรือ   ไปข้างหน้า  แกบอกหน้าตาเฉยชา  ผมถามต่อ ลุงผมเป็นตำรวจ ขอตรวจค้นลุงหน่อยเผื่อลุงซ่อนยาบ้าไว้ (ผมกล้าจริงๆหรือบ้ากันแน่)  แกก็ยืนนิ่ง ผมให้แกวางของที่แกแบกมานั้น ลง บนพื้นถนนนั่น   แกก็ทำตาม ผมก็ทำทีตรวจโดยรูปคลำตามตัวอ้วนพี ดำๆเปลือยเปล่าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของแก หน้าตาดูดุๆ ไหล่หนอกหนานูน หน้าอกใหญ่หนาล่ำ  ลำหักลำโค่นจริงๆ แกคงแบกของหนักและเดินทั้งวัน  ใจผมสั่นหวิว ให้แกยกรักแร้ทั้งสองขิ้น ขนรักแร้ดกดำไต้วงแขนใหญ่ขนาดรอบวงน่าจะราว20นิ้ว  แต่กลับไม่ได่กลิ่นอับหรือเหม็นหืน เหมือนที่เราคิด เป็นกลิ่นเหงื่อของผู้ชายปกติทั่วไป  ผมบอกแกว่า ขอล้วงหน่อย พูดเสร็จผมก็ปลดปม กางเกงออกเอามือล้วงเข้าไปใน กางเกงวอร์มเก่าสีดำขาดวิ่น  กางเกงมันหูรูดมันหย่อน แกเอาเชือกฟางผูกมัดไว้ จนพุงตึงแน่นแป๊ะ  แต่ตรงเป้ากลับแตก เผยให้เห็นกลุ่มหม*ยฟูออกมานอกเป็นชัดเจน  จมูกผมแทบชนกันกับหัวนมตั้งเต้าของลุง แก มือผมล้างลงไปลูบคลำ สัมผัสแรกคือ ท่อนเนื้อที่อ่อนน่วม แต่ขนาดน่าจะเท่าขวดลิโพ เลยคิดไปว่า ถ้ามันขยายขึ้นมา มันจะขนาดไหน มือผมแหวกเลยหัวเหน่าพอกนูนผ่านหม*ยสากหนารกรุงรังของลุงอ้วนดำผีบ้านั้น  คล่ำเจอเป็นถุงๆ ผมนึกว่าแกไปเอาหม่ำ(ชาวบ้านแถวขอนแก่นมักจะแขวนขายตามริมทางขอนแก่น-บ้านไผ่)พวงใหญ่จากไหนมาซุกไว้ไต้หว่างขาแก มันไม่ใช่ครับ มันคือพวงไข่ที่ห้อยโตงเตง เพราะแกไม่มีกางเกงในใส่  นี่ก็จวนจะมืดทุกที แต่โชคดีที่วันนี้ พระจันทร์เกือบเต็มดวง ทำให้มองเห็นไม่ต่างจากกลางวันนัก ผมถามว่าแล้วลุงจะไปนอนไหนคืนนี้ แกตอบว่า โน้น  พร้อมกับชี้ไปข้างหน้า ซึ่งเป็นนาข้าวที่จวนจะใกล้ออกรวง แกชี้ไปยังกระต๊อบอยู่ตรงกลางผืนนาที่ห่างจากที่เรายืนคุยกันราว 1 กิโลเมตร แล้วแกก็เดินดุ่มๆพร้อมกับกระเตงสัมภาระอันหนักของแก แล้วร่างอ้วนดำล่ำสัน พุงยื่น ก็เดินล้างหน้าผมไป  ผมได้โอกาส จึงหาที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้แอบในพุ่มไม่ข้างทาง แล้วลัดเลาะตามทุ่งนา เดินตามลุงอ้วนผีบ้าไปติดๆ ท่ามกลางอากาสที่เย็นสบาย ได้ยินเพียงแต่จิ้งหรีด กบเขียดร้องในท้องทุ่ง .......ขอเวลาหยุดพักเพื่อหายใจสักปื้ด

ลุงอ้วนผีบ้า แกเดินดุ่มๆไปอย่างคล่องแคล่วโดยไม่ยอมเที่จะ เหลียวหลัง ผมก็สะกดรอยตาม ห่างๆราว 50เมตรตามไปติดๆ  กลัวทั้งรถมอไซค์หายจากที่ซ่อน  กลัวงุและสัตว์มีพิษอื่นๆที่อาจออกหากินยามค่ำคืน  แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่กลัวคือ ลุงอ้วนผีบ้า ซ้ำยังชอบมากด้วยกับบุคคลิกซื่อๆ และรูปร่างอ้วนพีของแก  พ่อถึงที่พัก(ชาวอีสานเรียกเถียงนา ภาคกลางเรียกขนำ) เป็นที่พักหลังคาสังกะสีรั่วๆไม่มีฝาผนัง มีแผ่นไม้ตีตะปูเป็นพื้นแคบๆ  ด้านล่างจะมีกองไฟเก่าที่มอดไหม้แล้ว เหมือนกับที่นี่เป็นที่ที่คนเทียวแวะมาพักอาศัยอยู่เป็นประจำ  พอแกเห็นผมตามมาทันถึงเถียงนา  ลุงอ้วนผีบ้าก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร  แล้วแกก็เริ่มค้นหาไม้ขีดในถุงใบใหญ่ที่หิ้วมา แล้วลงไปข้างล้างเถียงนาน้อย หาเศษกิ่งไม้ใบหญ้าแถวๆนั้นมาก่อกองไฟ เพื่อให้สว่าง(คนบ้ายังรู้จักวางแผนชีวิต)แกนั่งยองๆแทบไม่ได้เพราะมันค้ำยันด้วยพุงหลามใหญ่ของแก นมห้อยย้อยเป็นพวง หัวนมจากสองเต้าก้อนดำเท่านิ้วก้อย ดูแล้วน่าดูดอม  แต่ที่น่าระทึกกว่านั้นก็คือ ภาพที่แกนั่งยองๆใบหน้ามู่ทู่ กลมดิกหนวดเคราไม่โกรน  นั้น กลับพบว่าที่เป้ากางเกงแตกของแกนั้น พวงไข่ทั้งยวงมันทะลักออกมาจนหมดพวง มีหม*ยแซมปะปนตามพวงไข่ใหญ่ยานนั้น พอไฟคุโชนขึ้น จึงทำให้รู้ว่ายุงมันเยอะจริงๆ เห็นบินวนว่อนเต็มไปทั่วบริเวณ  จากนั้นแกก็ขึ้นมาบนเถียงนาน้อย ทำเหมือนกับว่าที่นั่นมีแกคนเดียวโดยไม่สนใจที่จะมองหรือทักทายผม และไม่พูดอะไรเลย จู่ๆแกก็หัวเราะขึ้น และบ่นพรึมพรำฟังไม่ได้ศัพท์บ จับใจความไม่ได้สลับกับหัวเราะเรื่อยไป  ผมจึงถามว่าลุงจะไปใหน  แกตอบ ไปโน้น  แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเลย ต่อมาแกค้นในถุงใหญ่ ซึ่งมีอาหารถุงเก่าๆหลายถุงคล้ายไปเอามาจากวัดแห่งใดแห่งหนึ่ง ท่าทางอาหารน่าจะบูด แกก็เอาน้ำขวดในถุงออกมาล้างมือ(ดูตัวอย่างเข้าไว้ คนบ้ายังมีสุขอนามัยที่ดี) แล้วลงมือกินอาหารตั้งเยอะแยะไปจนหมด โดยไม่มองผม ไม่ชวนผมเลยสักคำ(น้อยใจ) หลังจากนั้นก็พันบุหรี่ยาเส้นมาสูบมวนใหญ่ ผมบอก ลุงขอสูบด้วยคน  แกมองหน้าผมแล้วยื่นยาเส้นกับกระดาษพัน และไฟแช็คให้ผม  ผมจุดบุหรี่เสร็จแล้วก็คืนให้แก แกยังเฉยเหมือนเดิม สักพัก ลุงอ้วนผีบ้าก็เอนหลังนอนพนักพิงบนกระสอบถุงที่แกหิ้วมา สูบบุหรี่ไป ตาแกก็เหม่อลอยออกไปยังท้องทุ่ง  ทำให้เห็นพุงอ้วนกลมตึงน่าเกียจของแกเด่นชัดขึ้น  ลำขาที่แข็งแรงเป็นปั้นใหญ่ก็เหยียดยาวออก กางขาเล็กน้อย แสงจันทร์ยามนั่นสอดส่อง ทำให้เห็นสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในเป้ากางเกงวอร์มเก่าๆดำๆของแกชัดเจน ผมจึงได้โอกาส  ลุงเดินมาทั้งวันปวดขาหรือเปล่า ผมจะนวดขาให้นะ แกคงดูท่าทางเราเป็นมิตร  จึงไม่ว่าอะไร เห็นเฉยๆ ผมก็เลย เริ่มนวดขาให้แกที่ละข้าง ก็นวดตามปกติเพื่อให้แกรู้สึกผ่อนคลาย ขณะนวดขาให้แก แกก็ตบยุงไปด้วย ผมก็ตบเหมือนกัน มันเยอะจริงๆ ขนาดแสงจันทร์ยังช่วยส่องให้เห็นตัวยุงบินว่อนเลย  นวดสักพักดูท่าทางแกจะสบาย เห็นยิ้มที่มุมปากนิดๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร  ผมจึงบอกว่าให้ลุงนอนงายดีๆ แกก็เอากระสอบถุงที่เอนพักนั้นออก แล้วหยิบเอาเสื้อเก่าๆในถุงมาทำเป็นที่รองหัวเพื่อนอนหงาย ทีนี้ทั้งพุงทั้งนมอวบอ้วนมันขานรับกับแสงจันทร์ที่กำลังทอแสง ขาลุงแข็งมากครับ กดไม่ลงแข็งเหมือนท่อนซุง ผมเลยบอกแกว่า เดี๋ยวจะเปิดลมให้นะ  ผมก็ไปนั่งยองๆพร้อมกันกับใช้อุ้งมือกดลงไปบริเวณขาหนีบของแก  กดที พุงอ้วนๆก็กระเด้งขึ้นที และตรงเป้าที่ขาดนั้น ทั้งพวงไข่ ทั้งท่อนเอ็นก็คอยแต่จะทะลักออกมา เป็นอย่างนี้อย่างต่อเนื่อง ผมก็เฝ้าวนเวียนนวดหากินแต่แถวๆนั้น หนักเข้าก็เลยลองเอาข้อศอกของผมไปเสียดสีตรงเป้าแก  มันแข็งโผล่ออกมาจากเป้ากางเกงแตกขึ้นเรื่อย ขนาดของมันนับว่าใหญ่เอาการ น่าจะราวๆ6*7นิ้วได้  ผมเอามือกำท่อนของแก ดมๆดูก็ไม่มีกลิ่นอะไร นับว่าแกรักษาความสะอาดดีมากเลย  ผมเลยเลียและดูดหัวบานดำร่านั้น อย่างเร่าร้อน  พร้อมกับสลับชักว่าวให้แก ดูหน้าตาแกก็ยังเฉยชาอยู่เหมือนเดิม แต่รู้สึกมีน้ำเหนียวๆ ออกจากปลายท่อของแก  ผมเลยถอดกางเกงวอร์มลุงอ้วนออก ทีนี้ร่างกายแกก็เลยเปลือยเปล่า นอนหงายพุงพลุ้ยแน่นตึงรับกับแสงจันทร์และบรรดายุงทั้งหลาย   ผมไปดูดหัวนมดำๆของแกและกอดแกแน่น  พร้อมกับชักว่าวแกที่แข็งปั๋งไปพร้อมกัน ราวกว่า30นาที น้ำผมก็จะเริ่มออกแล้วผมเลยถ่างขาแกอ้าซ่าพร้อมกับชักว่าวรด ลาดช่วงล่างของแกจนเนืองนองไปหมด แล้วผมก็หมดแรง  เดินลงไปเยี่วข้างล้าง  พอกลับมา ได้ยินแกหัวเราะและพูดจาฟังไม่ได้ศัพท์ ขณะที่แกนั่งห้อมขาจากเถียงนาน้อยลงมา ผมเห็นลุงอ้วนผีบ้าน้ำยังไม่แตก ก็สงสารแก ผมเลยยืนอยู่ข้างล่าง ขณะที่แกนั่งห้อยขาบนเถียงนา  ผมก็ได้แทรกตัวเข้าไปหว่างตัวลุงอ้วน แล้วเริ่มดูดเต้านมห้อยย้อยทั้งคู่สลับไปมา พร้อมกับชักว่างให้ไปพร้อมกัน พุงอ้วนๆของลุง จะเกร็งแขม่งตลอด ก้นก็กระเด้าตามหงึกๆ แกกดหัวผมแน่นจนนมอวบอ้วนอัดกับใบหน้าผมแทบหายใจไม่ออก ต่อมาแกเกร็งสุดๆแอ่นพุงหลามใหญ่ กระตุกเป็นระรอก น้ำกามปริมาณมากทั้งข้นทั้งคาว มันสาดรดราดตามลำตัวผม ยังกับสาดน้ำใส่ ผมจึงเอาเสื้อเก่าๆของแกมาเช็ดออก แล้วหยิบบุหรี่มาสูบด้วยกัน แต่ไม่พูดคุยกัน แกหันหน้าหนีไปอีกทาง  ผมเลยถามว่า นอนที่ใหนประจำ แกบอกว่านอนที่นี่ (ดูเหมือนบางครั้งจะคุยรู้เรื่อง)  ผมบอกขอกลับก่อนนะวันหน้าค่อยเจอกันใหม่ ผมให้เงินแก 20บาท ลุงอ้วนรีบฉกเอาจากมือผมโดยไม่คิดอะไรเลย   วันนั้นกลับถึงบ้านเกลือบ5ททุ่ม บอกทางบ้านว่าติดงานเลี้ยง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น